วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ความแตกต่างระหว่าง Mobile App กับ Mobile Site และเว็บแบบ Responsive

Mobile app

  • Mobile app ก็คือ Application บนอุปกรณ์พกพานั่นเอง (เอ่อ) คือเราก็จะเห็นๆ อยู่ว่าใน App Store เนี่ย ก็จะมีแอปหลายประเภท ทั้งแอปเล่นเกม แอปเครื่องมือนู่นนี่นั่น และเราก็สามารถทำเว็บให้กลายเป็น Mobile app ได้
  • ตัวอย่างของ Mobile app มีเยอะแยะมากมาย เช่น Facebook, Twitter หรือถ้าเป็นแอปที่สามย่านร่วมด้วยช่วยพัฒนา ก็จะมี Majorcineplex?และJeban 
  • ข้อดีของการทำ Mobile app ก็คือ ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้รวดเร็ว สวยงาม เพราะในเชิงการเขียนโปรแกรมนั้น สามารถเขียนแบบ Native ได้ โหลดเร็วด้วย เพราะไม่ต้องมานั่งดาวน์โหลด CSS หรือ JavaScript แบบเว็บไซต์แล้ว
  • แต่การทำ Mobile app ในปัจจุบันมีข้อเสียก็คือ ค่าใช้จ่ายในการทำค่อนข้างสูง และจะต้องทำแอปพลิเคชันให้กับทุก platform (iOS, Android, Windows Phone และอื่นๆ) ซึ่งในความเป็นจริงนั้นเราสามารถแสดงผลคอนเทนต์ในเบราเซอร์บนทุกอุปกรณ์พกพาได้โดยไม่จำเป็นต้องทำแอปพลิเคชันเลย Mobile site และการทำเว็บแบบ Responsive จึงตอบโจทย์แทนการทำ Mobile app 

Mobile site

  • คือการแยกเว็บไซต์มาเป็นอันใหม่อีก 1 เวอร์ชัน เป็นคนละเว็บกับตัวหลักที่มีอยู่
  • ซึ่งจะมีการออกแบบฟีเจอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือด้วย เช่น อาจมีการเปลี่ยนรูปแบบเมนู ปุ่มกดต่างๆ ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
  • นอกจากนี้อาจตัดหน้าเว็บบางหน้าที่ไม่จำเป็นออก เหลือไว้เฉพาะหน้าที่เป็นเนื้อหาหลักสำคัญๆ เท่านั้น
  • Mobile site จะเหมาะกับเว็บยุค desktop คือไม่ได้ออกแบบเว็บมาเพื่ออ่านง่ายในอุปกรณ์พกพามาตั้งแต่ต้น และเหมาะกับเว็บที่มีฟังก์ชันยุบยับ แต่ต้องการจะแสดงเนื้อหาบางส่วนในอุปกรณ์พกพาก็พอ
  • แต่ถ้าทำเว็บเป็น Mobile site ข้อเสียก็คือจะต้องทำ CMS (Content Management System) ที่ทำมาเพื่อ update เนื้อหาใน Mobile site ให้เท่ากับหน้าเว็บปัจจุบันที่มีอยู่ (ก็คือว่าเราจะต้องเสียเวลาในการจัดการ content เพิ่มขึ้นนั่นเอง)
  • ตัวอย่าง Mobile site ได้แก่?m.facebook.com,?mobile.twitter.comm.majorcineplex.com

เว็บแบบ Responsive

  • Responsive เป็นเทคนิคการเขียนเพื่อปรับรูปแบบการแสดงผลให้เหมาะกับอุปกรณ์พกพา เช่น มีการปรับเปลี่ยนขนาดตัวอักษร หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวางให้เหมาะกับการแสดงผลในแนวแคบ และรองรับการสัมผัสด้วยนิ้วมือได้ดีกว่า
  • ซึ่งข้อดีคือ จะอัพเดทข้อมูลแค่ครั้งเดียว ก็จะแสดงผลได้หมดในทุกๆ platform
  • แต่เว็บแบบ Responsive นั้น “ไม่ได้เหมาะกับเว็บทุกประเภท” อย่างที่บอกไปแล้วว่า การทำเว็บแบบ Responsive นั้นเหมาะแก่การปรับแต่งรูปแบบการแสดงผล แต่ก็มีบางเว็บไซต์ที่นำข้อดีของการทำ Mobile site และการทำเว็บแบบ Responsive มาอยู่ในเว็บเดียวกันได้
  • ตัวอย่างเว็บ responsive ได้แก่ microsoft.com,?ghosthorses.co.uk,?mediaqueri.es?(อันนี้เอาไว้ดูตัวอย่างเว็บที่เป็น responsive ได้ สวยๆ เพียบ)

แต่สุดท้ายแล้วมีข้อดี ข้อเสีย  และขึ้นอยู่กับ product ของคุณด้วย

จุดแข็งของ native คือ เรียกศักยภาพของเครื่องได้สมบูรณ์กว่า แต่เนี่องจากความเฉพาะเจาะจงของมัน ก็ตามมาด้วยการ 
maintenance ที่มากกว่า(variation ตามจำนวน native ที่คุณใช้)

cross platform ก็จะมีข้อขำกัด ในการเข้าถึง function บางอย่าง และ performance
แต่ maintenance ชุดเดียวครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น